95 ปีแห่งการให้บริการจากรุ่นสู่รุ่น

“พวกเราในฐานะโรแทเรียนต่างมีความเชื่อว่าการแบ่งปันความรักสามารถสร้างความแตกต่างได้ การยื่นความช่วยเหลือเพียงเล็กน้อยระหว่างมวลมนุษย์จะลดช่องว่างระหว่างผู้คนในโลกใบนี้ ซึ่งเป็นโลกในแบบที่เราหวังว่าจะส่งต่อให้กับลูกหลานของเรา บางคนอาจเข้าใจว่าสิ่งที่เราทำเพียงแค่การบริจาคอุปกรณ์การเรียน บริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลในชนบทที่ห่างไกล แต่แท้ที่จริงแล้วสิ่งที่พวกเราทำมาโดยตลอดคือการสร้างอนาคตที่ดีกว่า มั่นคงและมีสันติภาพ”
ดับบลิว บี (บิลล์) บอยด์
ประธานโรตารีสากล (พ.ศ. 2549-50)
สิ่งที่บิลล์ บอยด์ ได้กล่าวไว้ในปี พ.ศ. 2549-50 ยังคงเป็นข้อเท็จจริงจนถึงทุกวันนี้ ในสายตาของพวกเราชาวสโมสรโรตารีกรุงเทพ ตลอดระยะเวลา 93 ปีในประวัติศาสตร์ของสโมสรโรตารีกรุงเทพมีโครงการที่สำคัญ ๆ มากมาย ที่ได้ริเริ่ม และประสบความสำเร็จลุล่วง ในหัวข้อการให้บริการจากรุ่นสู่รุ่นนี้ เราจะแสดงให้ท่านเห็นถึงโครงการเกี่ยวกับมนุษยธรรมต่าง ๆ ตามช่วงเวลาในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา
มีทั้งโครงการที่สำเร็จลุล่วงไปแล้ว โครงการที่ยังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง และโครงการสำคัญต่าง ๆ ที่ใช้เม็ดเงินหลายล้านบาทตลอดหลายทศวรรษ ในขณะที่บางโครงการต้องตอบสนอง “ความต้องการแบบเร่งด่วน” เราชาวโรแทเรียนก็ได้ยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือผู้ยากไร้ผู้ขาดโอกาส เช่นการบริจาคผ้าห่มให้ประชาชนในแถบเทือกเขาชนบทอันหนาวเหน็บไปจนถึงการให้ความช่วยเหลือประชาชนในช่วงภัยพิบัติตามธรรมชาติหลาย ๆ ครั้ง ถึงแม้ว่าการร่วมแรงร่วมใจเพียงเล็กน้อยอาจดูไม่มากมายนัก แต่สำหรับเราชาวโรแทเรียนแล้วการกระทำดังกล่าวถือเป็นการแสดงออกถึงความเมตตา กรุณาอันเป็นพื้นฐานสำคัญแห่งสันติภาพในสังคมของเรา โดยในทุกปีนั้นนายกสโมสรภายใต้คำแนะนำของคณะกรรมการและผู้บริหารในทุก ๆ ฝ่ายจะกำหนดทิศทางในการดำเนินงานเพื่อสังคมตามความจำเป็นและลำดับความสำคัญ จากนั้นจึงทำการระดมเงินทุนสำหรับกิจกรรมการกุศลดังกล่าวโดยได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิกสโมสรด้วยดีเสมอมา
รุ่นแรก (พ.ศ. 2473-2503) : เป้าหมายช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ประวัติศาสตร์ในช่วงทศวรรษแรกของการทำงานของสโมสรโรตารีกรุงเทพอาจจะไม่สมบูรณ์ แต่จากการบอกเล่านั้น ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 สโมสรโรตารีกรุงเทพ (ในขณะนั้นดำเนินงานในชื่อ สมาคมบริการกรุงเทพ หรือ Service Association of Bangkok) ยังคงสามารถดำเนินงานด้านสังคมสงเคราะห์ในช่วงเวลาที่ยากลำบากและได้ให้การช่วยเหลืออุปถัมภ์บรรดาเด็กหญิงกำพร้า ณ.โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ทั้งให้ทุนสนับสนุนมูลนิธิช่วยคนตาบอดในประเทศไทยด้านสวัสดิการและการศึกษาอีกด้วย สงครามโลกครั้งที่ 2 ได้สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนและชีวิตผู้คนจำนวนมาก ชาวโรแทเรียนในขณะนั้นได้ช่วยกันระดมทุนสร้างกระท่อมลี้ภัยและได้ช่วยเหลือครอบครัวประชาชนที่สูญเสียที่อยู่อาศัยจากการทิ้งระเบิดในกรุงเทพกว่า 30 ครอบครัว โดยกระท่อมได้ถูกปลูกขึ้นบนผืนที่ดินย่านบางกะปิซึ่งบริจาคแก่ภารกิจนี้โดยโรแทเรียน เอช เจอร์สัน (H. Gerson)
ด้วยข้อจำกัดของข้อมูลทางประวัติศาสตร์ กิจกรรมในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อาจสรุปได้จากการถ่ายทอดประสบการณ์และบอกเล่าเรื่องราวจากสมาชิกกิตติมศักดิ์ โรแทเรียน พระยาศรีวิสาร ผู้ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ในนิตยสารโรตารีฉบับเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2497 ดังนี้ “มวลมิตรโรแทเรียนแห่งสโมสรโรตารีกรุงเทพได้ทุ่มเทสรรพกำลังอย่างแข็งขันเพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานตัวอย่างการทำงานแบบโรตารี เราได้ให้การอุปการะเด็กกำพร้าตามสถานสงเคราะห์ต่าง ๆ เราสนับสนุนค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยโรคเรื้อน ในทุก ๆ ปีเราให้ทุนการศึกษาจำนวน 4 ทุนสำหรับการศึกษาในมหาวิทยาลัย 2 แห่ง และสโมสรโรตารีกรุงเทพยังได้ซื้อ เครื่องช่วยหายใจชนิดใช้แรงดันลบ หรือที่เรียกกันว่า “ปอดเหล็ก” (มูลค่า 3,000 ดอลล่าสหรัฐ/เครื่อง) สองชุดแรกในประเทศไทยสำหรับใช้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคโปลิโอ”

ปอดเหล็ก 2 ชุด ซึ่งชุดหนึ่งมีขนาดใหญ่พอที่จะจุได้ทั้งคนไข้และแพทย์ข้างในนั้น กำลังถูกส่งมอบให้แก่สภากาชาดไทยโดยสโมสรโรตารีกรุงเทพ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต (ซ้าย) รองประธานสภากาชาดไทยกล่าวขอบคุณสโมสรโรตารีกรุงเทพสำหรับการบริจาค
โครงการ “ทุนคุณลุง” : โครงการ “ทุนคุณลุง” เปิดโอกาสให้โรแทเรียนให้การอนุเคราะห์และอุปการะผู้ป่วยโรคเรื้อนที่กำลังได้รับการบำบัดฟื้นฟู (ภายใต้โครงการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคเรื้อนภาคเหนือ) ในโครงการนี้ “คุณลุง” ทั้งหลายได้มอบของขวัญเล็กน้อยและให้การติดต่อผู้ป่วยโรคเรื้อนเพื่อให้กำลังใจและสร้างแรงบันดาลใจแก่เขาทั้งหลาย นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 โครงการนี้ดำเนินงานต่อเนื่องมายาวนานหลายปี โดยสมาชิกโรแทเรียนได้ให้ความช่วยเหลือผ่านโครงการสร้างงานสอนวิชาชีพให้แก่ลูกหลานของพ่อแม่ที่ป่วยด้วยโรคเรื้อนในเชียงใหม่

สโมสรโรตารีกรุงเทพได้บริจาคเตียงผู้ป่วยจำนวน 50 เตียง และของใช้ที่จำเป็นแก่เรือนบำบัดผู้ป่วยโรควัณโรค โรงพยาบาลในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งในยุคนั้นวัณโรคเป็นโรคร้ายที่คุกคามสังคมอย่างน่ากลัว ซึ่งด้วยงบประมาณทุน 100,000 บาทของโครงการ ทำให้โครงการนี้เป็นโครงการสำคัญในวาระฉลองครบรอบ 25 ปีแห่งการก่อตั้งสโมสรโรตารีกรุงเทพ ในช่วงเดือนกันยายน ปี 2498
รุ่นที่สอง (พ.ศ. 2503-2533) : จับตามองกระแสสงครามเย็น
สโมสรโรตารีกรุงเทพดำเนินการ และให้บริการสาธารณะและงานการกุศลอย่างต่อเนื่องตามอย่างโรแทเรียนรุ่นแรก โดยเราให้ความสำคัญกับโครงการด้านสนับสนุนทุนการศึกษาและทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาแก่นักเรียนนักศึกษา ทุนสนับสนุนงานก่อสร้างโรงพยาบาล รวมถีงโครงการต่าง ๆ ที่สนับสนุนมูลนิธิต่าง ๆ
โครงการการให้บริการใหม่ ๆ ยังสะท้อนถึงปัญหาและความจำเป็นด้านต่าง ๆ ที่ประเทศไทยต้องการในขณะนั้นอีกด้วย ช่วงสงครามเย็นเราได้เห็นการก่อความไม่สงบทางภาคเหนือของไทย โครงการต่าง ๆ ของสโมสรจึงมักเชื่อมโยงกับการช่วยเหลือชนเผ่าตามเทือกเขาและการส่งเสริมด้านสวัสดิการของประชาชนผู้ยากไร้ตามตะเข็บชายแดนของไทย ซึ่งความเป็นอยู่ของเขาเหล่านั้นได้รับผลกระทบอย่างมากจากการก่อการไม่สงบท่ามกลางการแพร่กระจายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในภูมิภาคดังกล่าว และตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 องค์อุปถัมภกแห่งเครือข่ายโรตารีภาคประเทศไทย สโมสรโรตารี่กรุงเทพได้ดำเนินการสนับสนุนโครงการช่วยเหลือชนเผ่าหุบเขาต่าง ๆ ตามพระราชดำรัสแนะนำของในหลวง โดยได้ให้การบริจาคกองทุนสนับสนุนโครงการในพระราชดำริต่าง ๆ โดยมีหลายโครงการที่สโมสรโรตารีกรุงเทพดำเนินการสนับสนุนต่อเนื่องมาเป็นเวลาหลายปี
สงครามการก่อความไม่สงบของลัทธิคอมมิวนิสย่านอินโดจีนยังผลให้มีผู้คนได้รับบาดเจ็บและพิการเป็นจำนวนมาก โรตารีกรุงเทพได้ให้การสนับสนุนเงินบริจาคเข้ากองทุนสวัสดิการเพื่อคนพิการ อีกทั้งยังได้มีการริเริ่มโครงการด้วยตัวเองอย่าง “โครงการขาเทียมสำหรับผู้พิการ”
ปี พ.ศ. 2511-2512 สโมสรโรตารีกรุงเทพได้เริ่มให้การสนับสนุนโครงการช่วยเหลือชนเผ่าหุบเขาต่าง ๆ โดยได้จัดให้มีงานกาล่าดินเนอร์เพื่อระดมทุนเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2512 ซึ่งสามารถระดมเงินบริจาคได้ถึง 680,000 บาท ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) ทรงกล่าวสุนทรพจน์ปิดท้ายเพื่อเป็นการขอบคุณแทนชาวเขาทุกคน ซึ่งเป็นที่ปราบปลื้มและประทับใจแขกที่มาร่วมงาน ตลอดระยะเวลายาวนานหลายปีสโมสรโรตารีกรุงเทพได้ริเริ่มและส่งเสริมโครงการต่าง ๆ มากมายที่ให้ความช่วยเหลือผู้อพยพจากเผ่าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น กระเหรี่ยง เย้า แม้ว ลาหู่ ซึ่งได้หลบหนีจากอิทธิพลควบคุมของกลุ่มคอมมิวนิสที่บริเวณทางตอนเหนือของประเทศไทย โครงการเหล่านี้ให้ความช่วยเหลือทั้งในกรณีภาวะฉุกเฉิน รวมถึงการให้ความช่วยเหลือระยะยาวด้าน อาหาร ยารักษาโรค เครื่องมือเกษตรกรรม อุปกรณ์ประกอบอาหาร ไปจนถึงการมอบทุนการศึกษาสำหรับการศึกษาต่อ และการฝึกอาชีพด้านเกษตรกรรม นอกจากนี้ สโมสรโรตารีกรุงเทพยังได้ลงทุนในสาธารณูปโภคของโรงเรียนต่าง ๆ อีกด้วย

การแจกจ่ายสิ่งของให้กับผู้อยู่ห่างไกลในพื้นที่บ้านห้วยฟอง โดยโรแทเรียน พลเอก สายหยุด ได้เป็นตัวแทนพูดในนามของสโมสรโรตารีกรุงเทพ

โรงเรียนที่บ้านนาเนิน
(Ban Na Nuen)
ปี พ.ศ. 2509 นับเป็นจุดเริ่มต้นที่เราได้ฝังเมล็ดพันธ์การศึกษาด้วยการก่อตั้ง “โรงเรียนโรตารี่กรุงเทพ” ขึ้นที่ตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ ภายใต้การอุปถัมภ์ของ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) ผู้ทรงเห็นความขาดแคลนด้านการศึกษาของเด็ก ๆ ผู้ด้อยโอกาสในถิ่นทุรกันดาร ได้ทรงเป็นผู้ดำริให้เกิดโครงการนี้ร่วมกับสโมสรโรตารีกรุงเทพ โดยสโมสรได้ใช้เงินทุนงบประมาณ 50,000 บาทในการสร้างโรงเรียนแห่งนี้บนที่ดินที่ได้รับบริจาคจากประชาชน ทั้งนี้สำหรับการดำเนินการก่อสร้างนั้นโครงการได้รับการช่วยเหลือจากกรมตำรวจทางหลวงในสมัยนั้น สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) ได้ทรงเป็นประธานในพิธีเปิดโรงเรียนโรตารี่กรุงเทพในปี พ.ศ. 2012 และทรงพระราชทานชื่อโรงเรียนแห่งนี้ตามชื่อสโมสรว่า “โรงเรียนโรตารี่กรุงเทพ” โดยสโมสรโรตารีกรุงเทพได้ให้การสนับสนุนโรงเรียนแห่งนี้มาตลอดระยะเวลาหลายสิบปีจนถึงปัจจุบัน

อาคารเรียนหลังแรกได้สร้างเสร็จในปี 2512 จากนั้นอาคารดังกล่าวได้นำมาใช้เป็นห้องสมุดของโรงเรียนในปี 2535
ในปี พ.ศ. 2519-20 สโมสรโรตารีกรุงเทพได้ให้การสนับสนุนเงินจำนวน 200,000 บาท แก่ โครงการบ้านเนินดินแดง ณ ตำบลทับสะแก ประจวบคีรีขันธ์ อันเป็นโครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลที่ 9) ผู้ทรงประสานสโมสรโรตารีทั้งหมด 35 สโมสรที่ได้ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยในขณะนั้นให้ร่วมกันทำโครงการนี้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวบ้านในทุก ๆ ด้าน เช่นการจัดหาที่ดินในการทำกิน การให้บริการด้านพื้นฐานทั่วไปแก่ชาวบ้าน รวมถึงการให้ความรู้ในการเพิ่มผลผลิต และความรู้ด้านการทำการตลาดสำหรับสินค้าที่ชาวบ้านผลิตได้ นอกจากนั้นยังมีความจำเป็นในด้านการพัฒนาระบบการศึกษาและสาธารณสุขอีกด้วย การดำเนินโครงการในลักษณะนี้ได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมมาตลอดระยะเวลาหลายปี และในปี พ.ศ. 2524 สโมสรโรตารีกรุงเทพได้ให้การสนับสนุนเงินทุนเพิ่มเติม

สโมสรโรตารีกรุงเทพได้ให้การสนับสนุนโครงการก่อสร้าง “อาคารสันติภาพเขาค้อ” อันได้รับการริเริ่มและดำเนินการระหว่างปี พ.ศ. 2524-27 ด้วยงบประมาณการก่อสร้าง 780,000 บาท โดยมีเป้าหมายให้เป็นอาคารสำหรับการฝึกอบรม และพัฒนาอาชีพสำหรับเยาวชน โครงการนี้ยังให้การสนับสนุนชาวบ้านในการพัฒนาด้านการทำเกษตรกรรมและส่งเสริมให้มีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ทั้งนี้เขาค้อในอดีตนั้นนับว่าเป็นพื้นที่ที่ถูกคุกคามจากกองกำลังระบอบคอมมิวนิสต์ที่ทางรัฐบาลไทยได้ประสบความสำเร็จในการยึดคืนพื้นที่มาได้ โครงการนี้ถือเป็นโครงการอันโดดเด่นของสโมสรโรตารีกรุงเทพซึ่งถูกริเริ่มโดยพลเอก สายหยุด เกิดผล

โครงการขาเทียม (Jaipur Foot) ถูกริเริ่มระหว่างปี พ.ศ. 2528-29 โดยโรแทเรียน Z.T. Kajiji ได้ประสานงานกับสโมสรโรตารีบอมเบย์ดาวน์ทาวน์ ร่วมกับกลุ่มช่างผู้เชี่ยวชาญจากอินเดียและโรงพยาบาลเลิศสิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการถ่ายทอดความรู้ด้านวิศกรรมการผลิตขาเทียมสำหรับผู้พิการ และเพื่อให้สามารถตอบโจทย์ตามสภาวะการณ์ในประเทศแถบเอเชียโดยสามารถคุมต้นทุนการผลิตให้อยู่เพียง 1 ใน 5 เมื่อเปรียบเทียบกับขาเทียมที่ผลิตโดยประเทศแถบยุโรป โครงการที่สำคัญนี้ได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จอย่างสูงซึ่งดำเนินการโดยโรตารีภาค โดยโครงการขาเทียม (Jaipur Foot) ได้เป็นหนึ่งในแสตมป์ที่ระลึกโดยกระทรวงคมนาคมเนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปีโรตารีประเทศไทย

การให้ทุนการศึกษานับได้ว่าเป็นกิจกรรมสำคัญที่สโมสรโรตารีกรุงเทพให้ความสำคัญและการสนับสนุนตลอดมา ซึ่งผู้นำสโมสรในทุก ๆ รุ่นได้ตระหนักถึงความสำคัญของความรู้ และการศึกษาว่าประชาชนที่ได้รับการศึกษาจะสามารถส่งผลต่อการพัฒนาของประเทศชาติได้ในระยะยาว นับตั้งแต่ยุคเริ่มต้นนั้น ทุนการศึกษาและทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาถือได้ว่าเป็นส่วนสำคัญของ “การให้” การให้โอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียนผู้ใฝ่รู้นั้นเป็นการยื่นบันไดให้เขาก้าวขึ้นไปสู่ระดับการศึกษาในแต่ละระดับ ไม่ว่าจะเป็น ด้านวิชาชีพเฉพาะ หรือปริญญาด้านต่าง ๆ ในช่วงเวลาหลายเจเนอเรชั่นมาแล้วที่สโมสรโรตารีกรุงเทพได้ให้เงินสนับสนุนจำนวนนับหลาย ๆ ล้านบาท เพื่อส่งเสริมนักเรียนและโรงเรียน สถาบัน และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล โดยโครงการมอบทุนการศึกษาถือเป็นกิจกรรมประจำปีของสโมสรโรตารีกรุงเทพโดยมีคณะทำงานและคณะกรรมการเป็นผู้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

นักศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล ได้เข้ารับทุนการศึกษาในการประชุมของสโมสร
รุ่นที่สาม (พ.ศ. 2533-2568) : การเผชิญหน้ากับความท้าทายของยุคอินเทอร์เน็ต
เรื่องราวของสโมสรโรตารีกรุงเทพดำเนินต่อเนื่องมายังรุ่นที่ 3 โรแทเรียนหลายๆ ท่านเป็นทายาทของโรแทเรียนในรุ่นก่อนๆ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีภัยธรรมชาติเกิดขึ้นมากมาย เช่นในปี 2004 เกิดสึนามิ และในปี 2012 มีอุทกภัยครั้งใหญ่ ทำให้สมาชิกโรแทเรียน ได้เล็งเห็นถึงปัญหา ที่เกิดจากภาวะโลกร้อน และงานโครงการต่าง ๆ นอกจากด้านสุขภาพแล้ว เรายังมุ่งเน้นในเรื่องของน้ำสะอาด สุขอนามัย และสิ่งแวดล้อมด้วย

การฟื้นฟูป่าไม้ในศรีราชา จังหวัดชลบุรี
สโมสรฯ ยังมุ่งเน้นในเรื่องของการศึกษา และริเริ่มโครงการสำคัญ เช่น REACT (Rotary Education for AIDS Affected Children in Thailand) ซึ่งเป็นโครงการที่สนับสนุนให้เด็กกำพร้า ที่ต้องกำพร้าเพราะโรคเอดส์ จบการศึกษาอย่างน้อยชั้นมัธยมตอนปลาย ซึ่งเด็กในวัยนี้ถือว่าเป็นเด็กวัยหัวเลี้ยวหัวต่อ ต่อมาโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากสโมสรโรตารีเกาลูนอีสต์ ซึ่งได้สนับสนุนเด็กให้เรียนจบมากกว่า 100 คน

โรแทเรียนของสโมสรโรตารีเกาลูนอีสต์กับเด็กๆในโครงการ REACT
สโมสรโรตารีกรุงเทพ เปิดตัวโครงการ Gift of Smile ในปี 2002 เนื่องในโอกาสสโมสรฯครบรอบ 72 ปี มีสโมสรโรตารีจากต่างประเทศเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 7 สโมสร โดยร่วมมือกับ ดร.ณรงค์ นิ่มสกุล และ โรงพยาบาลเดชา ร่วมสนับสนุนการผ่าตัดผู้ป่วยเพื่อปรับรูปหน้าผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ 100 คน โดยมีค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด คนละ 5,000 บาท
วันที่ 26 ธันวาคม ปี2004 เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่จากแผ่นดินไหวและสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย สโมสรโรตารีกรุงเทพร่วมระดมเงินบริจาคจากทั่วโลกกว่า 1.2 ล้านบาท เพื่อช่วยบรรเทาเหตุการณ์จากสึนามิ ในปีถัดไปจึงได้เกิดโครงการฟื้นฟูหลายโครงการ โดยเงินจำนวน 6 แสนบาท ได้นำไปใช้ในโครงการหมู่บ้านโรตารีภาค 3350 เพื่อช่วยสร้างบ้านที่อำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา และเงินจำนวน 1.7 แสนบาท ได้นำไปช่วยสร้างบ้านให้กับเหยื่อในเหตุการณ์สึนามิในจังหวัดกระบี่ ในโครงการ Rotary Cares โดยท่านพิชัย รัตตกุล ซึ่งท่านเคยดำรงตำแหน่งเป็นประธานโรตารีสากล และสุดท้ายเงินจำนวน 4.7 แสนบาท ได้สำรองไว้สำหรับโครงการร่วมกับสโมสรโรตารีคาลเกอรี่ และสโมสรโรตารีลาส เวกัส โดยความร่วมมือกับสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชนโดยคุณมีชัย วีระไวทยะ นอกจากนั้น สโมสรฯ ยังระดมทุนเพิ่มเติม อีกจำนวน 2.17 ล้านบาท เพื่อช่วยชุมชนท่าทองหลาง และหมู่บ้านท่าเลนในจังหวัดกระบี่ โดยใช้ชื่อโครงการชีวิตใหม่หลังสึนามิ โดยริเริ่มสนับสนุนกิจกรรมเกี่ยวกับการพัฒนาเยาวชน สุขภาพ และสุขอนามัย การเรียนรู้และการป้องกันสภาพแวดล้อม และเสริมสร้างอาชีพให้กับคนในหมู่บ้านอีกด้วย

โครงการหมู่บ้านโรตารีภาค 3350
“การยกย่อง the Unsung Heroes – ผู้ที่ทำความดีแบบปิดทองหลังพระ” ความคิดนี้ริเริ่มขึ้นจากการมอบรางวัลให้กับอาชีพคนขับรถประจำทางที่ได้ดูแลผู้โดยสารเป็นอย่างดี โดยสโมสรฯร่วมกับรายการวิทยุ “ร่วมด้วย ช่วยกัน” เพื่อสนับสนุนพนักงานขับรถ ที่ทำความดีกับผู้โดยสาร โดยคัดเลือก “ฮีโร่” ปีละ 10 ท่าน เพื่อร่วมรับทราบถึงคุณงามความดีที่ได้ทำต่อสังคม โดยมอบรางวัลเงินสด ให้ท่านละ 10,000 บาท พร้อมกับมอบกรมธรรม์ประกันภัยมูลค่า 100,000 บาท จาก บมจ.อินทรประกันภัย บุคคลเหล่านี้ ได้ทำความดีโดยไม่คิดถึงประโยชน์ส่วนตน โดยฮีโร่เหล่านี้ได้อุทิศและสร้างความดีงามให้กับสังคม ถึงแม้ว่าความกล้าหาญและความปรารถนาดีของพวกเขาไม่มีใครสังเกตเห็น แต่ฮีโร่เหล่านี้ก็ได้ทำประโยชน์ต่อสังคมเป็นอย่างมากในขณะที่พวกเขาต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่างๆมากมายในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
ในปี 2004 โครงการสนับสนุนอุปกรณ์การศึกษาให้กับครูผู้สอนภาษาอังกฤษในชนบท เป็นอีกโครงการที่ได้รับการตอบรับที่ดี เนื่องจากโลกในปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นยุคแห่งอินเทอร์เน็ต ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญมากสำหรับคนไทยรุ่นใหม่ในการเรียนที่โรงเรียน สโมสรฯ ได้สนับสนุนทุนการศึกษาการฝึกอบรมที่ออกแบบโดยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อพัฒนาทักษะการสอนภาษาอังกฤษให้กับครูสอนภาษาอังกฤษ โดยโครงการนี้เริ่มต้นจากเงินทุน 140,000 บาท สำหรับครู 20 ท่าน หรือ 20 ทุน จากจังหวัดต่าง ๆ โดยใช้ระยะเวลาฝึกอบรม 90 ชั่วโมงจากโปรแกรมที่ออกแบบโดยสถาบันภาษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (LITU) หลังจากนั้นมีผู้เข้าร่วมมากขึ้นโดยโปรแกรมขยายใหญ่ขึ้นเป็นครูจำนวน 84 ท่าน โดยมีค่าใช้จ่ายท่านละ 8,000 บาท ภายหลังในปี 2009 โครงการได้ขยายเพิ่มเติมไปที่ สถาบันภาษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CULI) โดยมีคุณครูมาเข้าร่วมอีก 40 ท่าน

สโมสรโรตารีกรุงเทพ ได้ริเริ่มโครงการน้ำดื่มสะอาด สำหรับโรงเรียนในชนบท ในปี 2008-2009 สโมสรฯ ได้ร่วมมือกับสโมสรโรตารีหัวหิน, สโมสรโรตารีโอซาก้า และโรตารีภาค 3350 โดยสนับสนุน เครื่องกรองน้ำ 12 เครื่องให้กับโรงเรียน 12 แห่งทั่วประเทศ สโมสรฯ ได้ร่วมบริจาคมากกว่า 3 แสนบาทในโครงการนี้ โดยเราเชื่อมั่นว่าโรงเรียนทั้ง 12 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งประกอบด้วยนักเรียนและคุณครูจำนวน 2,411 คน จะมีน้ำดื่มที่สะอาดไว้บริโภค


มหาอุทกภัย ในปี 2011-2012 กระทบกับภาคกลางของประเทศไทย ระดับน้ำสูงถึง 3 เมตร โดยมวลน้ำมุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพมหานคร บริเวณชานเมืองต้องจมอยู่ใต้น้ำนานกว่า 2 เดือน สร้างความสูญเสียทางด้านทรัพย์สินและเศรษฐกิจอย่างมหาศาล สมาชิกในสโมสรโรตารีกรุงเทพ ได้ร่วมจัดถุงยังชีพอย่างเร่งด่วนเพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ นอกจากนี้สมาชิกยังได้ร่วมบริจาคข้าวสารอาหารแห้งไปยังผู้ที่เดือดร้อน สโมสรฯ ยังได้ร่วมโครงการกับสโมสรโรตารีอื่นๆ เพื่อช่วยติดตั้งระบบทำน้ำดื่มให้กับโรงเรียน 29 แห่งในพื้นที่ 8 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบ และสโมสรฯยังได้รับเงินบริจาคจากเพื่อนโรแทเรียนชาวญี่ปุ่น เพื่อติดตั้งระบบน้ำดื่มที่โรงเรียนเทศบาลบางกรวย ซึ่งมีนักเรียนจำนวน 2,000 คน และโรงเรียนสรรพยาวิทยา จังหวัดชัยนาท ซึ่งมีนักเรียนจำนวน 1,000 คน อีกทั้งยังมอบให้กับโรงเรียนวัดดาวคะนองในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีกด้วย และได้ทำการปรับปรุงห้องสมุดของโรงเรียนวัดบางเดื่อ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ติดตั้งระบบน้ำดื่มสะอาด

สโมสรโรตารีกรุงเทพได้มอบหนังสือใหม่ให้กับห้องสมุดโรงเรียนวัดบางเดื่อ ในเดือนพฤศจิกายน 2015 (หลังจากที่ได้ช่วยปรับปรุงซ่อมแซมไปในปี 2013) ห้องสมุดได้รับความเสียหายเป็นอย่างมากจากผลกระทบน้ำท่วมในปี 2011
เรื่องราวสุดพิเศษ: โครงการโปลิโอพลัส อายุครบ 35 ปี
ในรุ่นที่ 3 ของสโมสรโรตารีกรุงเทพ ได้มุ่งเน้นในการร่วมมือกับโรตารีทั่วโลกในแต่ละปี โดยพยายามที่จะกำจัดการแพร่กระจายของโปลิโอ โดยตั้งแต่ช่วงกลางยุค 80 การกำจัดโปลิโอก็กลายเป็นโครงการสำคัญของโรแทเรียนทั่วโลก

โรตารีสากลเข้าร่วมกับองค์การอนามัยโลก, ยูนิเซฟ, ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา และในภายหลังได้เข้าร่วมกับมูลนิธิบิลและเมลินดาเกตส์ เพื่อจัดตั้งโครงการต่อต้านและกำจัดโรคโปลิโอสากล (GPEI) โดยโรตารีและเหล่าพันธมิตร GPEI ได้ร่วมมือกันเพื่อลดผู้ป่วยโปลิโอจากปีละ 350,000 เคส ลดลงเหลือน้อยกว่า 40 เคสในช่วงเดือนมิถุนายน ปี 2015 ซึ่งเด็กมากกว่า 2,500 ล้านคน ได้รับวัคซีนโปลิโอ ดังที่ ไมเคิล แมคโกเวิร์นได้เคยกล่าวไว้ว่า:
“โรแทเรียนมีบทบาทสำคัญในการกำจัดโรคโปลิโอให้หมดไปจากโลก ความพยายามของเหล่าโรแทเรียนไม่ใช่แค่หยุดยั้งโปลิโอใน 122 ประเทศ แต่ยังสามารถกำหนดแผนแม่บทที่เกี่ยวกับสุขภาพในการต่อสู้กับโรคภัยชนิดต่างๆอีกด้วย นี่คือสิ่งที่เราชาวโรแทเรียนภูมิใจในความสำเร็จที่เกิดขึ้น”
ไมเคิล เค แมคโกเวิร์น,
ประธานคณะกรรมการสากลโปลิโอพลัส
ในแต่ละปี โรตารีภาคต่างๆ ได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อกระจายวัคซีนโรคโปลิโอไปยังชุมชนต่างๆ ภายใต้ แบนเนอร์ END POLIO NOW สำหรับโครงการโปลิโอพลัส การแจกจ่ายวัคซีนเหล่านี้เป็นบทบาทสำคัญ ที่ไม่ใช่แค่ทำให้โลกของเราปลอดจากโปลิโอ แต่ยังเป็นแบบแผนสำหรับการป้องกันโรคอื่นๆ อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น การให้วัคซีนเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันหัดในเด็ก และแจกจ่ายมุ้งชุบน้ำยาเพื่อการป้องกันโรคมาลาเรีย และการแจกจ่ายวิตามินเอ
สโมสรโรตารีกรุงเทพได้เข้าร่วมวันฉีดวัคซีนประจำปีของชุมชน ทั้งนี้ประเทศไทยสามารถกล่าวได้อย่างภูมิใจว่าเป็นประเทศปลอดโปลิโอ ปัจจุบันมีเพียง 2 ประเทศ ที่โปลิโอยังเป็นโรคระดับท้องถิ่น คือ ประเทศอัฟกานิสถาน และประเทศปากีสถาน โดยยังมีไวรัสโปลิโอ อยู่ในพื้นที่ที่เข้าถึงได้ยาก จึงยังคงเป็นความท้าทายในการป้องกันโปลิโอที่ยังคงเหลืออยู่อีก 1% ต่อไป
หลายปีที่ผ่านมานี้ สมาชิกของสโมสรฯ ได้เข้าร่วมงานระดมทุนของ”Run to End Polio” โดยโรตารีภาค 3350 อย่างต่อเนื่อง

สโมสรฯได้มอบทุนการศึกษาอย่างต่อเนื่อง โดยให้การสนันสนุนโรงเรียนโรตารีกรุงเทพ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล และนักศึกษาแพทย์ที่มาจากชนบท
สโมสรฯ ได้ลงทุนอย่างมากในการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆให้กับโรงเรียนโรตารีกรุงเทพ โดยได้สร้างหอประชุมเอนกประสงค์ และอาคารเรียนใหม่ 2 อาคาร

พิธีส่งมอบอาคารเรียนเฉลิมพระเกียรติ

หอประชุมเอนกประสงค์ โรงเรียนโรตารีกรุงเทพ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สโมสรฯ ประสบความสำเร็จในการจัดทำโครงการอบรมการดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ที่บ้าน ให้กับนักสังคมสงเคราะห์ที่ทำงานด้านนี้ โดยความร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจากมูลนิธิส่งเสริมการพัฒนาบุคคล โครงการได้อบรมผู้ที่ทำงานและอาสาสมัครเพื่อดูแลผู้ป่วยทางบ้าน จากองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร 10 แห่งในประเทศไทย จากการอบรมดังกล่าว โรแทเรียนได้เข้าเยี่ยมผู้ป่วยโรคเอดส์เพื่อประเมินคุณภาพชีวิตและการบำบัดผู้ป่วยที่บ้านอีกด้วย

ในปี 2020 เราต้องเผชิญหน้ากับโรคระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก สมาชิกของสโมสรโรตารีกรุงเทพ นำโดยโรแทเรียนคุณวาสนา ได้จัดหาเครื่องอุปโภคบริโภค เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ชุมชนต่าง ๆ อย่างเร่งด่วน ทั้งหมด 2,064 ชุด มูลค่ารวม 777,463 บาท โดยสโมสรฯได้แจกจ่ายไปยัง 18 โรงเรียน ในพื้นที่ 4 จังหวัด และชุมชนที่เดือนร้อน 6 ชุมชนรวมถึงชุมชนดอนเมือง ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ แสดงให้เห็นว่าโรตารีเป็นพลังเชิงบวกที่ทำประโยชน์ให้กับชุมชนในท้องถิ่นและทั่วโลกที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่เสมอ
