โรแทเรียนในสโมสรโรตารีกรุงเทพ
สโมสรโรตารีกรุงเทพ มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าเราได้ดูแล บริหารและตรวจสอบด้านการเงินของสโมสรเป็นอย่างดีโดยผู้ที่ลงมือทำอย่างจริงจังและผู้บริหารโครงการที่เป็นสมาชิกโรแทเรียน
มูลนิธิสโมสรโรตารีกรุงเทพ เป็นองค์กรหรือสถานสาธารณกุศลตามประกาศกระทรวงการคลัง ประเทศไทย เงินบริจาคของท่านจึงสามารถนำมาลดหย่อนภาษีในประเทศไทยได้
โรตารีเริ่มขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1905 โดยนาย พอล แฮริส ผู้ซึ่งเป็นทนายความในเมืองชิคาโก หลังจากนั้นกว่าร้อยปี สโมสรโรตารีได้เติบโตขึ้นมากกว่า 35,000 สโมสร ภายใต้โรตารีสากล โดยสโมสรเหล่านี้ตั้งอยู่ทั่วโลก และมีสมาชิกมากกว่า 1.2 ล้านคนทั่วโลก ภายใต้แนวคิด “การเสริมสร้างความคุ้นเคยระหว่างสมาชิก เพื่อการบำเพ็ญประโยชน์”

พอล แฮริส
อ่านเพิ่มเติม: www.rotary.org
“หากข้าพเจ้าสามารถปลูกฝังโรตารีลงในทุกชุมชนทั่วทั้งโลกได้ ข้าพเจ้าก็จะทำ และข้าพเจ้าจะรับประกันความสงบสุขและการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าของโลกใบนี้”
วอร์เรน จี ฮาร์ดิ้ง, ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
สโมสรโรตารีโดยทั่วไปจะดำเนินการภายในชุมชนของตน โดยสมาชิกของสโมสรจะทำการคัดเลือกคณะกรรมการบริหารปีละหนึ่งครั้ง โดยโรแทเรียนคือสมาชิกของแต่ละสโมสร และแต่ละสโมสรเป็นสมาชิกของโรตารีสากล โดยตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 สโมสรโรตารีเติบโตขึ้นมากจากการเปิดรับสุภาพสตรีให้เป็นส่วนหนึ่งของโรตารี
โรเเทเรียน คือ “คนลงมือทำ – People of Action” เหล่าสมาชิกโรแทเรียนป็นผู้นำจากธุรกิจที่หลากหลาย และเป็นผู้นำด้านวิชาชีพจากทั่วโลก ที่มารวมกันเพื่อบำเพ็ญประโยชน์ให้กับชุมชนท้องถิ่นและประชาคมโลก โรตารีถูกนำเข้ามาในประเทศไทย ในปี ค.ศ.1930 โดยเสด็จในกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งสโมสรโรตารีขึ้นครั้งแรกในประเทศไทยชื่อว่าสโมสรโรตารีกรุงเทพ โรแทเรียนได้เสียสละเวลาส่วนตัวเพื่อบำเพ็ญประโยชน์แก่ชุมชน ภายใต้คำขวัญที่ว่า “บริการเหนือตนเอง – Service Above Self”

สโมสรโรตารีกรุงเทพให้บริการชุมชนทั่วประเทศไทยมาแล้วจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 93 ปี งานที่เราได้ทำด้านสิทธิมนุษยชนครอบคลุมถึงการสร้างสันติภาพ, น้ำดื่มสะอาดเพื่อป้องกันเชื้อโรค, ให้ความรู้ทางวิชาชีพ จนถึงการส่งเสริมมาตรฐานจริยธรรมแขนงต่างๆ และการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ช่วงเวลาที่น่าประทับใจที่สุดสำหรับชาวโรแทเรียน คือในโอกาสการฉลองวันครบรอบ 25 ปี ของการก่อตั้งสโมสรโรตารีกรุงเทพ ในปี ค.ศ. 1955 (พ.ศ.2498) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ทรงโปรดเกล้าฯพระราชทานเกียรติแก่โรตารี โดยรับเป็นองค์อุปถัมภ์ของโรตารีในประเทศไทย เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเกียรติแก่สโมสรเป็นอย่างมาก ในขณะนั้นสโมสรโรตารีกรุงเทพเป็นสโมสรโรตารีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นส่วนสำคัญอย่างมากที่ช่วยให้เกิดการเคลื่อนไหวของกลุ่มโรตารีในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น โดยได้สนับสนุนให้จัดตั้งสโมสรที่พูดภาษาไทยได้ ซึ่งนั่นเป็นการทำให้การบำเพ็ญประโยชน์ของกลุ่มโรตารีได้เผยแพร่ไปยังคนจำนวนที่มากยิ่งขึ้น
ในช่วงปี ค.ศ. 1970-1980 สโมสรโรตารีกรุงเทพ มุ่งเน้นการบริการโครงการที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชนโดยเน้นไปที่การช่วยเหลือชาวเขา โดยนำโครงการ “โครงการหลวง พระบรมราชานุเคราะห์ชาวเขา” ในพระราชดำริ เป็นต้นแบบ ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1969 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จให้ชาวโรแทเรียนเข้าเฝ้า นับเป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของการระดมทุนในปีนั้น

“โรแทเรียนคือผู้คนที่มีอุดมการณ์ และได้แสดงให้ปรากฏถึงแบบอย่างที่ดีของพวกเขาในการแสวงความก้าวหน้าและความมั่นคงของมนุษย์”
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
เนื่องในโอกาสฉลองสโมสรครบรอบ 60 ปี สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีทรงรับคำเชิญเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ของสโมสรฯ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของเหล่าสมาชิกสโมสรโรตารีกรุงเทพ โดยทุกปีสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีพระราชทานพระราชวโรกาสให้สมาชิกสโมสรเข้าเฝ้าทูลเกล้าฯถวายเงิน และนำรายงานกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำระหว่างปีในนามสโมสรโรตารีกรุงเทพ

ในปัจจุบัน สโมสรโรตารีกรุงเทพ ประกอบด้วย สมาชิกทั้งหมด 80 คน 21 เชื้อชาติ แสดงให้เห็นความเป็นผู้นำและความหลากหลายในสังคมกรุงเทพที่พวกเขาอาศัยอยู่ และยังทำให้เราเห็นถึงความร่วมมือของคนต่างเชื้อชาติ ต่างศาสนา และต่างสายอาชีพที่มาร่วมกันบำเพ็ญประโยชน์ ในฐานะของโรแทเรียนที่เป็นส่วนหนึ่งจากทั่วโลก เราตั้งมั่นที่จะช่วยเหลือและพัฒนาชีวิตของผู้คนให้มีมาตรฐานชีวิตที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงส่งเสริมมาตรฐานด้านจริยธรรม มอบความหวังใหม่ และสร้างความสงบให้กับโลกของเรา

สมาชิกของสโมสรโรตารีกรุงเทพ มีการประชุมทุกสัปดาห์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ ริเริ่มและร่วมหารือเกี่ยวกับโครงการบริการที่จัดทำ โดยในการประชุมแต่ละครั้ง ทางสโมสรจะเชิญผู้บรรยายเพื่อมาบรรยายหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับข่าวสารที่น่าสนใจ หรือเหตุการณ์ที่กำลังเป็นที่จับตามอง โดยหัวข้อในการบรรยายในแต่ละสัปดาห์จะครอบคลุมไปยังด้านต่าง ๆ เช่น เศรษฐกิจ สังคม สุขภาพ ศิลปะ ประวัติศาสตร์ และสิ่งแวดล้อม